|
|
|
|
|
|
|
|
|
ขิง : สมุนไพรสารพัดประโยชน์ นอกเหนือจากจะมีคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ขิงยังมีสรรพคุณทางการแพทย์อีกด้วย เช่น ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน เมารถ เมาเรือ เป็นไข้ ไอ เจ็บคอ และ ยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมายที่คุณคาดไม่ถึง ขิง พืชสมุนไพรที่คนไทยสมัยก่อนรู้จักกันดี เพราะเป็นพืชพื้นบ้านไทย ที่ต้องปลูกกันทุกบ้านถือเป็นพืชสวนครัวที่จำเป็นต้องมี แต่เมื่อเวลาผ่านไป...ลองถามเด็กสมัยนี้หลายคนอาจชี้ข่าเป็นขิง และเขี่ยทิ้งออกจากจาน ด้วยเพราะขิงมีรสเผ็ดร้อน แต่หวานเป็นลม ขมเป็นยา จริงดั่งโบราณว่าไว้ ขิงแก่รสเผ็ดจัดกลับมีสรรพคุณแอบซ่อนไว้อย่างมากมาย สืบย้อนกลับไป ชาวจีนรู้จักประโยชน์ของขิงมานานแล้ว ตำราเภสัชของจีน ปี ค.ศ. 1985 จัดขิงไว้เป็นพืชรสเผ็ดอุ่น มีฤทธิ์แก้หวัดเย็น ซึ่งจะมีอาการไข้ต่ำ ตัวเย็น และยังมีฤทธิ์ขับเหงื่อ บำรุงกระเพาะ แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน ลดโคเลสเตอรอลที่สะสมในตับและเส้นเลือด และใช้ขิงเพื่อปรับสมดุลของร่างกายตามหลัก หยิน-หยาง คนที่ขาดหยางจะมีอาการหนาวง่าย ทนต่อความเย็นได้น้อย การย่อยอาหารไม่ดี ให้ดื่มน้ำขิงร้อนๆ เป็นประจำจะช่วยได้ ชาวบ้านทั่วไปของจีน ใช้ขิงต้มกับน้ำตาลอ้อยช่วยแก้หวัด และมีสูตรเด็ดฝานขิงบางๆ ปิดที่ขมับทั้งสองข้างจะช่วยแก้ปวดหัวได้ เวลาคลื่นไส้ อาเจียน หรือกระวนกระวายใจให้สอดขิงแผ่นบางไว้ใต้ลิ้นจะช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้เป็นอย่างดี จากรายงานล่าสุดทางการแพทย์ พบว่ามีการใช้ขิงแก่ในคนไข้ปวดข้อรูมาติสม์ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้ในระดับหนึ่ง สูตรการรับประทานขิงของจีน คือ ใช้ขิง 3 ขีด สับละเอียดต้มทานน้ำในขณะท้องว่าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต หรือคั้นน้ำขิงสดประมาณครึ่งแก้ว ผสมน้ำผึ้ง อุ่นให้ร้อนก่อนรับประทาน ฤทธิ์ของขิงจะช่วยเสริมสรรพคุณของน้ำผึ้งได้เป็นอย่างดี สำหรับตำรายาไทยนั้น ใช้ขิง เป็นยาขับลม แก้อาเจียน แก้ไอ ขับเสมหะ และ ขับเหงื่อโดยใช้ขิงสดขนาดนิ้วหัวแม่มือต้มกับน้ำ หรือใช้ขิงผงแห้งชงน้ำดื่มเป็นประจำ ในไทยเคยมีผู้ทดลองกับอาสาสมัครที่มีอาการเมารถ เมาเรือ พบว่าการดื่มน้ำขิงร้อนๆ ช่วยบรรเทาได้ ลองค้นคว้าไปยังชาติอื่นๆ ทั้งญี่ปุ่น อินเดีย อาหรับ ต่างมีขิงบรรจุอยู่ในตำรายาแพทย์ทั้งสิ้น โดยส่วนใหญ่ใช้ในหลักการคล้ายคลึงกัน ยกเว้นอินเดีย ซึ่งชำนาญด้านน้ำมันนวดตัว จึงมีการพัฒนาขิงไปใช้ในการทาถูนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ใช้ขิงลดการอักเสบ แก้ปวด ลดอาการบวมน้ำ ใช้เป็นยากระตุ้น การอยากอาหาร เป็นยาช่วยย่อย ช่วยขับลมในลำไส้ แถมท้ายด้วยสรรพคุณในการกระตุ้นกำหนัด ซึ่งไปพ้องกับการใช้ขิงของชาวอาหรับโบราณซึ่งจะเน้นใช้ขิงทางด้านนี้เช่นกัน สำหรับฤทธิ์ของขิงที่มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์แล้ว พบว่าขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีฤทธิ์แก้ปวด และต้านการอักเสบได้ดี แก้อาหารเป็นพิษ ชาวตะวันตกซึ่งเน้นเรื่องหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จึงนิยมใช้ในด้านนี้ ปัจจุบันได้มีการแยกสารเคมีที่มีอยู่หลากหลายชนิดโดยเฉพาะสารที่ชื่อ Sesquiterpenes ซึ่งมีอยู่ในขิง พบว่าสารตัวนี้มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุของไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ อันเกิดจากเชื้อ ไรโนโวรัส ซึ่งสารเคมีดังกล่าวนั้นมีศักยภาพเพียงพอที่จะต้านไวรัสชนิดนี้ได้ และเป็นได้ว่าหากมีการค้นคว้าต่อไป ขิงน่าจะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการของโรคที่เกิดจากไวรัสชนิดอื่นที่รุนแรงกว่านี้ได้ การดื่มน้ำขิง เป็นการเสริมสร้างสุขภาพของตัวคุณเองได้ง่ายๆ เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เพิ่มความอบอุ่น และสร้างสมดุลให้กับร่างกาย การรอบรู้สรรพคุณของสิ่งใกล้ตัว จะช่วยให้คุณเสริมสร้างสุขภาพของตัวคุณเองได้ง่าย..ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์สุขภาพวันนี้น่าเป็นห่วง การดูแลร่างกายให้แข็งแรง เป็นหนทางที่ป้องกันได้ อย่างไรเสีย...สร้างย่อมดีกว่าซ่อม
|
